tabizcom: เทคนิคการเลือกซื้อรองเท้า

เทคนิคการเลือกซื้อรองเท้า

รองเท้า มีความสำคัญมาก นอกจากจะใส่เพื่อปกป้องร่างกายจากเชื้อโรคและของมีคมที่ตกอยู่บนพื้นแล้ว รองเท้ายังเป็นส่วนหนึ่งที่ต้องสวมใส่เวลาออกไปทำงานหรือเรียนหนังสือ และคงหลีกหนีไม่พ้นที่จะต้องสวมใส่ร้องเท้าเป็นเวลานาน ๆ วันนี้เกร็ดความรู้มีวิธีการเลือกซื้อรองเท้ามาฝากกัน...

สำหรับการเลือกสีรองเท้า ควรเลือกให้สีเข้มกว่าชุดที่สวมใส่ แล้วรองเท้าใหม่ไม่ควรใส่เกิน 1 ชม./วัน เพื่อลดแรงกดของรองเท้า และก็อย่าใส่รองเท้าคู่เดิมทุกวัน ควรเปลี่ยนไปใส่คู่อื่นบ้างเพื่อไม่ให้เกิดหนังด้านขึ้นที่เท้า และที่สำคัญที่สุดควรจะรักษาความสะอาดของรองเท้าให้มาก ๆ เพราะบริเวณเท้ามีต่อมเหงื่ออยู่มาก หากไม่ทำความสะอาดรองเท้าเสียบ้าง เหงื่อก็จะถูกรองเท้าดูดซับไว้ และกลายเป็นแหล่งกบดานของเชื้อโรคได้ในภายหลัง และสำหรับกล่องที่บรรจุรองเท้ามาก็อย่าทิ้ง เก็บไว้ใส่รองเท้าได้ โดยหย่อนเกลือลงไปซัก 1 ถุง เพื่อดูดความชื้นและเก็บเอาไว้

เคยบ้างไหมที่ซื้อรองเท้ามาคู่หนึ่ง เวลาอยู่ในร้านก็ถูกใจดี และดูเหมือนจะเข้ากันได้ดีกับเท้าเรา แต่พอกลับมาที่บ้าน กลับไม่รู้สึกอย่างนั้นแล้ว
- เมื่อเลือกแบบได้จนพอใจแล้ว ให้ถามหาเบอร์ที่พอดีกับเท้าคุณเท่านั้น
- อย่าซื้อรองเท้าเบอร์เล็กกว่ามาใส่เป็นอันขาดเพราะคุณจะต้องเจ็บปวดเท้าตลอดเวลาที่สวมใส่เลยทีเดียว
- รองเท้าที่พอดีกับเท้าคุณนั้นคือคู่ที่ สวมใส่แล้วมีพื้นที่เหลือตรงปลายเท้าประมาณ 1 นิ้ว ซึ่งคุณสามารถขยับนิ้วได้สะดวก แต่ถ้าหลวมกว่านี้ก็ไม่ควรซื้อมา
- รองเท้าหนังแท้จะมีความยืดหยุ่นมากกว่าพวกหนังเทียม
- ไม่ควรลองสวมเฉพาะคู่ที่วางโชว์บนชั้นเพียงคู่เดียวเท่านั้น
- ลองสวมรองเท้าคู่ที่คุณจะซื้อนั้นให้แน่ใจก่อน คือลองสวมทั้งสองข้างแล้วลองเดินไปมาในระยะเวลาที่นานพอ
- ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะเข้าร้านรองเท้าคือ ช่วงบ่าย เพราะเป็นเวลาที่เท้าขยายตัวมากที่สุด

วิธีการเลือกรองเท้า

ที่สำคัญควรเลือกเข้ากับลักษณะหรือสรีระเท้าของเรา เช่น หน้าเท้ากว้างหรือไม่ นิ้วชี้ยาวกว่านิ้วโป้งหรือเปล่า การลองสวมรองเท้าก่อนตัดสินใจซื้อ อย่านำเกณฑ์เบอร์รองเท้าที่เคยใส่มาเป็นเครื่องวัด เพราะแต่ละที่ก้อมีเกณฑ์การผลิตขนาดของรองเท้าแตกต่างกัน ลองสวมรองเท้าทั้งสองข้าง

การเลือกรองเท้าหุ้มส้น

เลือกรองเท้าที่ไม่คับจนบีบเกินไปหรือหลวมจนเกือบหลุด ให้ลองเดินส่องกระจกดูด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง เพื่อสำรวจดูความเรียบร้อยดูเป็นอย่างไร ลองกดหัวรองเท้าว่า มีเนื้อที่ให้ขยับเขยื้อนได้สบายหรือไม่ ถ้าหากบีบรัดเกินไป ควรเปลี่ยนคู่ใหม่ดีกว่า เพราะถ้าใส่รองเท้าที่รัดจนเกินไปก็อาจทำให้เนื้อเท้าด้านแข็งและเป็นตาปลาได้ อย่ามัวแต่ไปฟังคนขายว่ารองเท้าจะยืดอีกเล็กน้อย เพราะกว่ารองเท้าจะยืด เท้าคุณคงจะพังไปก่อนแล้วแน่นอนค่ะ แตะตะเข็บที่อยู่รอบๆรองเท้า ตรวจสอบดูว่าระคายเท้าหรือเปล่า ควรเลือกที่นุ่มเท้าดีกว่า ผิวเท้าจะได้ไม่ด้านหรือถลอก

การเลือกรองเท้าเปิดส้น

อย่าเลือกรองเท้าส้นเท้าหรือหน้าเท้าล้ำเกินออกมานอกรองเท้า สาวเท้าใหญ่ยาว พยายามเลือกรองเท้าสีเข้มไว้จะดีกว่า สาวช่วงเท้าสั้น ข้อเท้าใหญ่ ควรหลีกเลี่ยงรองเท้าที่มีสายพันรอบข้อเท้า หรือรองเท้าพวกส้นเตี้ยส้นแบน เลือกรองเท้าส้นสูงหน่อยจะช่วยเรื่องรูปเท้าได้มาก

การเลือกรองเท้าเปิดส้น

ช่วงเวลาในการเลือกซื้อรองเท้า

ช่วงบ่ายจะเหมาะสมที่สุดสำหรับการเลือกซื้อและลองรองเท้า เพราะเป็นช่วงเวลาที่เท้าขยายได้ที่ ถ้าซื้อรองเท้าช่วงเวลานี้รับรองว่าจะพอดีกับขนาดเท้าที่แท้จริงของคุณๆที่สุด

5 วิธี เลือกรองเท้าให้คุ้ม …ถูกใจ

คุณทราบหรือไม่ว่าในชีวิตคนเรานั้น ใช้เท้าเดินเป็นระยะทางมากกว่า 4 เท่าของระยะทางรอบโลกเลยทีเดียวดังนั้นการเลือกรองเท้าคู่ใจสักคู่หนึ่งไม่อาจละเลยได้อีกต่อไปเพราะต่อให้คุณสวมชุดสวยแค่ไหน แต่รองเท้ากลับบีบรัดเท้าจนบวมเป่งก็ทำให้หายมั่นใจไปเยอะ เมื่อตัดสินใจจะเลือกรองเท้าคู่ใหม่สักคู่แล้วล่ะก็ ลองอ่านคำแนะนำเหล่านี้สิคะ
การเลือกรองเท้าที่ดีและสวมใส่สบายต้องพิจารณาหลายปัจจัย ตั้งแต่ พื้นรองเท้าด้านนอก ควรมีความแข็งแรง ทำด้วยวัสดุที่เกาะกับพื้นได้ดี และมีความยืดหยุ่น พื้นรองเท้าด้านในควรมีวัสดุที่รองรับแรงกระแทก โดยเฉพาะบริเวณโค้งอุ้งเท้าเพื่อช่วยกระจายน้ำหนักที่ตกลงบนเท้า และบริเวณฝ่าเท้าเพื่อลดแรงกระแทกขณะเดินบนพื้นแข็ง ส้นรองเท้า สำหรับคุณผู้หญิงที่ชอบสวมรองเท้าส้นสูงที่สูงเกินไป จะทำให้เท้าของคุณเสียภาวะสมดุล มีโอกาสเดินเท้าพลิก และข้อเท้าแพลงได้ นอกจากนี้การใส่รองเท้าส้นสูงนานๆ จะทำให้ความโค้งของหลังเปลี่ยนไป และปวดหลังง่ายขึ้น ความสูงของรองเท้าที่เหมาะสมคือ ?-1 นิ้ว ตัวรองเท้า ควรทำด้วยหนังที่มีการระบายอากาศและปรับเข้ากับรูปเท้าได้ดี ความพอดีของรองเท้า โดยปกติขนาดเท้าของคนเราทั้ง 2 ข้างจะต่างกัน (แต่ไม่มาก) ดังนั้นควรเลือกซื้อรองเท้าตามขนาดเท้าข้างที่ใหญ่กว่า และอย่าซื้อรองเท้าที่คับ เพราะคิดว่ารองเท้าจะยืดออกเมื่อใส่ไปนานๆ เมื่อเลือกคู่ที่ถูกใจได้แล้วต้องลองสวม แล้วดูว่าส่วนตัวรองเท้ากว้างพอที่จะขยับนิ้วเท้าได้หรือเปล่า ทดสอบโดยการลองเดินแล้วสังเกตดูว่าขนาดพอดีและให้ความสบายกับเท้ามากที่สุดต้องตรวจดูให้แน่ใจว่า คุณไม่ต้องงอนิ้วเท้าในขณะที่เดิน ควรลองใส่เดินภายในร้านสักรอบสองรอบโดยไม่ต้องกลัวคนขายเขม่นเอา เพราะสิ่งเหล่านี้ต้องพิถีพิถันกันสักหน่อย

รองเท้าแบบใด...สวมไปงานไหน

รองเท้าส้นแหลม เหมาะสำหรับการใส่ไปงานปาร์ตี้กลางคืนในชุดกระโปรงยาวหรูหราถ้าคุณคิดจะซื้อรองเท้าส้นแหลมไว้ใช้ออกงานสักคู่ ไม่ต้องเน้นตามแฟชั่นควรเน้นที่สไตล์และสีแบบคลาสสิคเพื่อว่าคุณจะสามารถใส่ข้ามปีได้แบบไม่อายใครๆเลือกรองเท้าไปงานให้เหมาะกับชุด

1. ก่อนอื่นให้ดูเนื้อผ้าของชุด ถ้าเป็นเนื้อผ้าชนิดบางเบาเช่น ผ้าชีฟอง ผ้าโปร่ง ผ้าลูกไม้เนื้อละเอียด หรือชุดราตรีแบบสั้น (Cocktail dress) ควรจะใส่กับรองเท้าที่ดูโปร่ง เช่น รองเท้าเปิดหน้าให้เห็นเล็บเท้า ที่ทำมาแล้วอย่างสวยงาม) หรือแบบสานเป็นเส้นแล้วพันข้อเท้า ส่วนจะเปิดส้นด้วยหรือไม่ก็ได้ ส่วนถ้าเป็นชุดราตรียาว (Evening dress) เนื้อผ้าพลิ้วบางเบา แนะนำให้ใส่รองเท้าแบบโปร่งที่มีลูกเล่น เช่น ติดเพชร หรือมีสายห้อยตุ้งติ้งเล่นกับแสงไฟ เวลาเดินปลายกระโปรงจะปลิวไปด้านหลัง ทำให้เห็นรองเท้าและข้อเท้าที่ดูเซ็กซี่ ถ้าชุดเป็นผ้าเนื้อหนัก เช่น ผ้ากำมะหยี่ หรือผ้าไหมเนื้อแน่น จะเหมาะกับรองเท้าที่ดูสุภาพและเป็นทางการอย่างรองเท้าหุ้มส้นที่อาจจะเปิดหน้านิดหน่อย (ไม่เห็นนิ้วเท้าหมดทุกนิ้ว) หรือจะเป็นคัชชูมีส้นไปเลยก็ได้แต่ควรมีลูกเล่นที่ทำให้ดูเท่เก๋
2. ดูลูกเล่นของชุด ถ้ามีการปักเลื่อมหรือคริสตัล เราก็หารองเท้าที่เข้ากัน หรือถ้ามีโซ่ทองตรงคอเสื้อก็สามารถหารองเท้ามีโซ่ทองประดับได้ แต่อย่าให้ลูกเล่นเยอะจนเกินไปด้วยนะคะ และที่สำคัญต้องดูให้เข้ากับเครื่องประดับด้วย ทั้งชุด รองเท้า และเครื่องประดับต้องเป็นไปในทางเดียวกันนะคะ
3. ผู้หญิงจะสวยสง่าขึ้นทันทีเมื่อใส่รองเท้าส้นสูง ใส่ให้สูงที่สุดเท่าที่จะสามารถเดินได้ ยิ่งถ้าใส่ชุดราตรียาวก็ควรใส่ให้ชุดคลุมรองเท้าไปเลย จะดูสูงเพรียวขึ้นอีกเป็นกอง เวลาตัดชุดอย่าลืมติดรองเท้าไปใส่ด้วย จะได้กะความยาวของชุดได้พอดี

ที่มา http://images.google.co.th/imgres?imgurl=http://graphics8.nytimes.com/images/2004/08/24/business/24shoe.rowxl.jpg&imgrefurl=http://www.guidepop.com/board1/viewtopic.php%3Ft%3D4294&usg=__72spPPdQW3IizRRWLDI6rv8tk8=&h=250&w=583&sz=93&hl=th&start=17&um=1&tbnid=CudAtDbySzs2mM:&tbnh=57&tbnw=134&prev=/images%3Fq%3D%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2587%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2597%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%26hl%3Dth%26sa%3DN%26um%3D1
ที่มา http://www.ladyissue.com/index.php?mo=3&art=84642
ที่มา http://www.thaigoodview.com/node/11664
ที่มา http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=mininam&date=08-07-2008&group=3&gblog=8